ในฐานะที่คุณเป็นแขก คุณมักจะรู้สึกว่าถูกบังคับให้ทานและดื่มทุกอย่างที่เจ้าภาพนำมาให้ ในปริมาณที่มากเกินไป แต่กฎที่คุณจะต้องนึกไว้เสมอก็คือ
ตั้งใจแน่วแน่ว่าไม่ตามใจตัวเองเป็นอันขาด เลือกอาหารที่จะทานอย่างฉลาด เตือนตัวเองไว้ว่า การที่คุณทานอาหารทุกอย่างที่เจ้าภาพนำมาให้มิได้เป็นวิธีที่ดีทีสุด ในการแสดงความรักและแสดงการยอมรับในตัวของเจ้าภาพ การแสดงออกทางอากัปกิริยาสีหน้าท่าทาง และการพูดคุยสำคัญกว่า นอกจากนั้น ก็ยังมีข้อแนะนำที่จะช่วยคุณไม่ให้ทานมากเกินไป คือ เดรียมหาข้ออ้างที่ฟังเข้าท่าเอาไว้บอกเจ้าภาพ เช่น “อาหารอร่อยมาก แต่ ดิฉันอิ่มจนทานต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ” หรือ “ต้องขอเก็บท้องไว้เผื่อรายการต่อไปดีกว่าค่ะ” ฯลฯ
ถ้าจำเป็นต้องทานจนอิ่มเต็มที่จริง ๆ ตามคำคะยั้นคะยอของเจ้าภาพ คุณก็นะต้องมีการอดอาหารชดเชยด้วยตัวคุณเอง เช่น งดข้าวเย็นไปสัก อาทิตย์ ทานเฉพาะผลไม้แทน อย่าลืมหาอะไรทารองท้องก่อนที่จะไปงานทุกครั้ง บอกแล้วว่าเวลาหิวน่ะ อะไร ๆ ก็ดูน่าทานไปซะทั้งนั้นแหละ งานเลี้ยงบุฟเฟ่ต์เปิดโอกาสให้คุณได้เลือกตักอาหารได้อย่างอิสระ และอย่างเต็มที่เพราฉะนั้นคุณต้องรู้จักควบคุมตัวเองให้ได้ ตักมาในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น ไม่จำเป็นนะต้องทานอาหารทุกอย่างที่นำมาเสิร์ฟ สิ่งสำคัญมันอยู่ที่การพยายามแสดงความนิยมชมชอบเจ้าภาพในวิธีอื่น ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นแขกหรือเจ้าภาพ จงยึดคติที่ว่า “ปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างที่คุณอยากให้เข้าปฏิบัติต่อคุณ” อย่าคะยั้นคะยออาหารและเครื่องดื่มให้แขกของคุณ และจำไว้ว่าการที่แขกปฏิเสธอาหารของคุณก็ไม่ได้หมายความว่าแขกปฏิเสธในตัวคุณ
อาหารเป็นศัตรูตัวร้ายกาจของการลดน้ำหนัก ถ้าคุณไม่รู้จักเลือกอาหารที่เหมาะสม และที่สำคัญคุณต้องรู้จักหักห้ามใจด้วยเองด้วยนะ เพราะหน้ายิ้มแย้มในงาน พอกลับมาถึงบ้านก็ต้องหน้ายิ้มไม่ออก เนื่องจากกินเข้าไปเยอะ อาหารทอดที่ยั่วยุน้ำย่อยเลยกินไม่ยั้ง ทำให้ส่วนเกินติดตามมาอย่างทันใจ อิ่มแล้วลำบากเพราะตามใจปากนั่นเอง